วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แผลริมอ่อน (Chancroid)

                แผลริมอ่อน เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Haemophilus Ducreyi ทำให้เกิดบาดแผลตรงบริเวณหี และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ บางครั้งมีหนองไหลออกมา หากไม่รักษาจะเป็นสาเหตให้เกิดการติดเชื้อ HIV ได้ง่าย สามารถเป็นได้ทั้งชายและหญิง มีการติดต่อกันได้ง่าย ผู้ชายที่ติดเชื้อจะมีอาการปวดแผลมากกว่าผู้หญิง ในรายที่ไม่ค่อยปวดแผลมากจะทำให้เกิดแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ง่ายและหากรักษาไม่ครบอาจทำให้เกิดการดื้อยา
                อาการของโรคแผลริมอ่อน
                ผู้รับเชื้อจะมีอาการปรากฏใน 5-7 วัน หีจะเริ่มมีตุ่มนูนขึ้นหลังจากนั้นจะเกิดแผลเล็กๆ ทำให้ปวดแผลมาก แผลจะดูแฉะและไม่สะอาด ในฝ่ายชายปลายควยจะมีลักษณะคล้ายแผลเปื่อย ขอบไม่แข็งและไม่เรียบ เวลาแตะถูกมักมีเลือดซิบ ๆ และรู้สึกเจ็บ ในฝ่ายหญิงจะมีอาการตกขาวแบบมีกลิ่นเหม็น มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต อาจเป็นข้างเดียวหรือเป็นทั้งสองข้างได้ หากไม่ได้รับการรักษาให้ถูกวิธี อาจทำให้ต้องตัดอวัยวะเพศ
                การป้องกันโรค
                1.ไม่สำส่อนทางเพศ ควรใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรดูหนังโป๊
                2.หากคู่นอนมีแผลให้งดการมีเพศสัมพันธ์
                3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสที่หี
                4.รักษาความสะอาดของหีหลังมีเพศสัมพันธ์เสมอ
                วิธีการรักษา
                1.การรักษาทั่วไป เบื้องต้นใช้สบู่ฟอกบริเวณหีเพื่อทำความสะอาด ทานยาแก้ปวด งดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ

                2.การรักษาแบบเฉพาะ คือ การใช้ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม Azithromycin Ceftriaxone และ Erythromycin 

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

                โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย พบในผู้หญิง พบมากในผู้หญิงอายุ 35-55 ปี มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยสูง 7 คนต่อวัน สาเหตุที่มีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตมากเป็นเพราะอายที่จะไปพบแพทย์ เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกก็อาจอยู่ในระยะเชื้อลุกลามแล้วก็ได้
                สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
                เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus) หรือที่เรียกกันว่า ไวรัสหูด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในลักษณะ Precancerous ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย xxx มากเกินไป ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเป็นโรคติดต่อ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส เป็นต้น ทำให้เชื้อไวรัสเข้าไปที่ปากมดลูก ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
            อาการเป็นอย่างไร?
                อาการของมะเร็งจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง อาการที่พบได้บ่อยมากคือการตกเลือดทางหี ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออดกะปริกะปรอยระหว่างรอบเดือน เลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน ระยะหลังจากที่อาการลุกลาม จะมีอาการขาบวม ปวดหลังรุนแรง ปัสสาวะและอุจจาระเป็นเลือด ปวดท้องน้อย ไม่มีเรี่ยวแรง ซึมเศร้า ถ้าโรคมะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ อาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้
                วิธีการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
                1.หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
                2.เมื่อมีเพศสัมพันธ์ควรใส่ถุงยางอยามัยทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่ร่างกาย
                3.ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
                4.ตรวจมะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง
5.ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก)
                6.ไม่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
                7.ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
                การรักษามะเร็งปาดมดลูกทำอย่างไร?

                ปัจจุบันการรักษาทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การรักษาไม่ต้องผ่าตัด แต่แพทย์จะใช้วิธีจี้ก้อนมะเร็ง การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด ซึ่งจะมีผลข้างเคียงคือ ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร ผมร่วง คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ซิฟิลิส (Syphilis)

                โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สะสมเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าหากปล่อยไว้
เป็นระยะเวลานานอาจทำให้ระบบการทำงานของร่างกายได้รับโรคแทรกซ้อนได้ง่าย
                โรคซิฟิลิสคืออะไร?
                โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่ง มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ลักษณะคล้ายเกลียวสว่าน ชอบอยู่ตามที่ชื้นและตายได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่แห้งและเมื่อโดนน้ำสบู่ แบคทีเรียตัวนี้สามารถทำให้เกิดโรคแก่ระบบต่างๆ ของร่างกายได้หลายระบบ เช่น ซิฟิลิสระบบหัวใจและหลอดเลือด ซิฟิลิสระบบประสาท เป็นต้น นอกจากนี้ มารดาตั้งครรภ์ที่เป็นโรคซิฟิลิสจะถ่ายทอดโรคสู่ทารกในครรภ์ได้เรียกว่า ซิฟิลิสแต่กำเนิด
                สาเหตุของการเกิดโรคซิฟิลิส
                เกิดได้จากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัย การสัมผัสของเสียหรือสารคัดหลั่งผู้เป็นโรคซิฟิลิส ทั้งนี้รวมถึงการติดต่อจากมารดาสู่บุตรด้วย
                อาการของโรคซิฟิลิสเป็นอย่างไร?
                อาการของโรคสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
                1.ระยะแรก เป็นระยะที่ยังไม่แสดงอาการ หลังจากที่รับเชื้อจะมีตุ่มเล็กๆที่อวัยวะเพศ(หี) ขาหนีบ ลิ้น ปาก หัวนม ตามส่วนที่สัมผัสกับเชื้อ และมีการขยายใหญ่ขึ้นและแตกออกเป็นวงกว้าง เมื่อทิ้งไว้สามารถรักษาหายเองได้
                2.ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองและแพร่กระจายสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดผื่นแดงทั้งตัว จะมีตุ่มนูนขึ้นมา แต่ไม่มีอาการคัน เรียกว่า “ระยะออกดอก” บางรายไม่มีผื่นขึ้นแต่จะมีอาการคล้ายไข้หวัดแทน
                3.ระยะที่สาม หรือระยะสุดท้าย ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เชื้อจะเข้าสู่สมองและไขสันหลัง ทำให้ตาบอด สมองเสื่อม เป็นโรคหัวใจ อาจหนักถึงเป็นอัมพาต หรือเสียชีวิตเลยก็ได้
                วิธีการป้องกันและการรักษา
                สามารถป้องกันโรคซิฟิลิสได้โดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สำส่อนทางเพศ งดการใช้ปากทำรักกับผู้ติดเชื้อ เมื่อเกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศ(หี)ให้รีบพบแพทย์

                สำหรับผู้ที่ติดเชื้อซิฟิลิส แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะในปริมาณมาก และจะต้องไปฉีดยาตามนัดทุกครั้ง ไม่ขาดยา เพราะจะทำให้เกิดอาการดื้อยาและไม่หายจากโรคได้