วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

                โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย พบในผู้หญิง พบมากในผู้หญิงอายุ 35-55 ปี มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยสูง 7 คนต่อวัน สาเหตุที่มีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตมากเป็นเพราะอายที่จะไปพบแพทย์ เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกก็อาจอยู่ในระยะเชื้อลุกลามแล้วก็ได้
                สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
                เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus) หรือที่เรียกกันว่า ไวรัสหูด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในลักษณะ Precancerous ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย xxx มากเกินไป ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเป็นโรคติดต่อ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส เป็นต้น ทำให้เชื้อไวรัสเข้าไปที่ปากมดลูก ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
            อาการเป็นอย่างไร?
                อาการของมะเร็งจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง อาการที่พบได้บ่อยมากคือการตกเลือดทางหี ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออดกะปริกะปรอยระหว่างรอบเดือน เลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน ระยะหลังจากที่อาการลุกลาม จะมีอาการขาบวม ปวดหลังรุนแรง ปัสสาวะและอุจจาระเป็นเลือด ปวดท้องน้อย ไม่มีเรี่ยวแรง ซึมเศร้า ถ้าโรคมะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ อาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้
                วิธีการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
                1.หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
                2.เมื่อมีเพศสัมพันธ์ควรใส่ถุงยางอยามัยทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่ร่างกาย
                3.ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
                4.ตรวจมะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง
5.ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก)
                6.ไม่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
                7.ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
                การรักษามะเร็งปาดมดลูกทำอย่างไร?

                ปัจจุบันการรักษาทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การรักษาไม่ต้องผ่าตัด แต่แพทย์จะใช้วิธีจี้ก้อนมะเร็ง การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด ซึ่งจะมีผลข้างเคียงคือ ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร ผมร่วง คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น