มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)
โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากป็นอันดับ 2
ในประเทศไทย พบในผู้หญิง พบมากในผู้หญิงอายุ 35-55 ปี
มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยสูง 7 คนต่อวัน
สาเหตุที่มีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตมากเป็นเพราะอายที่จะไปพบแพทย์
เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกก็อาจอยู่ในระยะเชื้อลุกลามแล้วก็ได้
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า HPV (Human
Papilloma Virus) หรือที่เรียกกันว่า ไวรัสหูด
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในลักษณะ Precancerous ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย xxx มากเกินไป ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หรือเป็นโรคติดต่อ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส เป็นต้น ทำให้เชื้อไวรัสเข้าไปที่ปากมดลูก
ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
อาการเป็นอย่างไร?
อาการของมะเร็งจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง
อาการที่พบได้บ่อยมากคือการตกเลือดทางหี
ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออดกะปริกะปรอยระหว่างรอบเดือน เลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
หรือเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน ระยะหลังจากที่อาการลุกลาม จะมีอาการขาบวม
ปวดหลังรุนแรง ปัสสาวะและอุจจาระเป็นเลือด ปวดท้องน้อย ไม่มีเรี่ยวแรง ซึมเศร้า
ถ้าโรคมะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ อาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้
วิธีการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
1.หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
2.เมื่อมีเพศสัมพันธ์ควรใส่ถุงยางอยามัยทุกครั้ง
เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่ร่างกาย
3.ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
4.ตรวจมะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง
5.ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก)
6.ไม่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
7.ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
การรักษามะเร็งปาดมดลูกทำอย่างไร?
ปัจจุบันการรักษาทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก
ทำให้การรักษาไม่ต้องผ่าตัด แต่แพทย์จะใช้วิธีจี้ก้อนมะเร็ง การฉายรังสี
และการทำเคมีบำบัด ซึ่งจะมีผลข้างเคียงคือ ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร ผมร่วง
คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น