วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฝีมะม่วง

ฝีมะม่วง

ฝีมะม่วง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia Tracho matis ซึ่งก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อสัมผัสที่หนองรือฝี จะทำให้เกิดแผลเล็กๆ บริเวณผิวหนังที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย แต่จะไม่รู้สึกเจ็บ ต่อมาจะทำให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองตรงขาหนีบ มีไข้ เจ็บตรงขาหนีบ ต่อมน้ำเหลืองจะบวมเป็นฝี ทำให้เดินเหินลำบาก อาจลุกลามจนทำให้ท่อนํ้าเหลืองตันและเกิดการบวมนํ้าของหี โรคนี้จะเกิดอาการภายใน 4-10 วัน หลังจากการสัมผัสเชื้อ
                ฝีมะม่วงเกิดจากแผลริมอ่อน หรือเกิดจากอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆตรงหี อาจจะมีอาการอักเสบ บวม แดง ของต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบได้ แต่มักจะบวมไม่มาก ฝีมะม่วงทำให้เกิดการนำไปสู่ท้อนอกมดลูก ภาวะมีบุตรยาก การปวดท้องน้อยเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษาจะแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนของตนเองได้
                อาการของโรคฝีมะม่วง
                ระยะแรกของการติดเชื้อจะมีตุ่นนูนใส หรือแผลขนาดเล็กบริเวณหี และหายไปเองได้ภายใน 2-5 วัน ต่อมต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมโตติดกันเป็นก้อนฝี และทำให้เจ็บมาก ผิวหนังจะเกิดอาการบวมแดงและอาจเกิดพังผืดขึ้น อัณฑะจะบวม หรือช่องคลอดบวมมาก มีอาการไข้ มีผื่นขึ้น เบื่ออาหาร เวียนหัว คลื่นไส้ ปวดตามร่างกาย ฝีจะหายเองได้ใน 1 เดือน บางรายฝีอาจแตกเป็นรู ทำให้เกิดแผลเรื้อรังได้
                หากมีการร่วมเพศทางทวารหนัก อาจมีเลือดออก มีหนองไหลออกมาและเกิดการตีบตันของทวารหนักได้
                วิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นฝีมะม่วง
                เมื่อเกิดอาการขาหนีบบวม ควรรีบไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง หากปวดมากสามารถทานยาพาราเซตามอนเพื่อระงับอาการปวดได้ ประคบอุ่นบริเวณที่ปวดประมาณ 5-10 นาที จะช่วยลดอาการปวดบวมแดงได้
                การป้องการโรค
                1.ไม่สำส่อนทางเพศ และไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้เป็นโรค
                2.รักษาความสะอาดของหีอย่างสม่ำเสมอ
                3.ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งในการมีเพศสัมพันธ์ และงดการชมหนังโป๊

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น