ฝีมะม่วง
ฝีมะม่วง
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia
Tracho matis ซึ่งก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เมื่อสัมผัสที่หนองรือฝี จะทำให้เกิดแผลเล็กๆ บริเวณผิวหนังที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย
แต่จะไม่รู้สึกเจ็บ ต่อมาจะทำให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองตรงขาหนีบ มีไข้
เจ็บตรงขาหนีบ ต่อมน้ำเหลืองจะบวมเป็นฝี ทำให้เดินเหินลำบาก อาจลุกลามจนทำให้ท่อนํ้าเหลืองตันและเกิดการบวมนํ้าของหี โรคนี้จะเกิดอาการภายใน 4-10 วัน หลังจากการสัมผัสเชื้อ
ฝีมะม่วงเกิดจากแผลริมอ่อน
หรือเกิดจากอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆตรงหี อาจจะมีอาการอักเสบ บวม แดง
ของต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบได้ แต่มักจะบวมไม่มาก
ฝีมะม่วงทำให้เกิดการนำไปสู่ท้อนอกมดลูก ภาวะมีบุตรยาก การปวดท้องน้อยเรื้อรัง
หากไม่ได้รับการรักษาจะแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนของตนเองได้
อาการของโรคฝีมะม่วง
ระยะแรกของการติดเชื้อจะมีตุ่นนูนใส
หรือแผลขนาดเล็กบริเวณหี และหายไปเองได้ภายใน 2-5 วัน ต่อมาต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมโตติดกันเป็นก้อนฝี และทำให้เจ็บมาก ผิวหนังจะเกิดอาการบวมแดงและอาจเกิดพังผืดขึ้น
อัณฑะจะบวม หรือช่องคลอดบวมมาก มีอาการไข้ มีผื่นขึ้น เบื่ออาหาร เวียนหัว
คลื่นไส้ ปวดตามร่างกาย ฝีจะหายเองได้ใน 1 เดือน บางรายฝีอาจแตกเป็นรู
ทำให้เกิดแผลเรื้อรังได้
หากมีการร่วมเพศทางทวารหนัก อาจมีเลือดออก มีหนองไหลออกมาและเกิดการตีบตันของทวารหนักได้
วิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นฝีมะม่วง
เมื่อเกิดอาการขาหนีบบวม
ควรรีบไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
หากปวดมากสามารถทานยาพาราเซตามอนเพื่อระงับอาการปวดได้
ประคบอุ่นบริเวณที่ปวดประมาณ 5-10 นาที จะช่วยลดอาการปวดบวมแดงได้
การป้องการโรค
1.ไม่สำส่อนทางเพศ
และไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้เป็นโรค
2.รักษาความสะอาดของหีอย่างสม่ำเสมอ
3.ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งในการมีเพศสัมพันธ์ และงดการชมหนังโป๊
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น